หลายๆ คนคงสงสัยใช่ไหมครับ ว่าทำไมบริษัทอุตสาหกรรมจึงใช้คำว่า "มาตรฐาน JIS" ในกระบวนการควบคุมการผลิตชิ้นงาน และส่วนใหญ่ที่เราเห็นมักจะเป็นบริษัทอุตสาหกรรมจากประเทศญี่ปุ่นที่ผลิตชิ้นงานจากวัสดุที่เรียกว่า "เหล็ก" วันนี้เราจึงรวบรวมความรู้เกี่ยวกับ "มาตรฐาน JIS" มาแชร์พร้อมกันครับ
การจำแนกประเภทของเหล็กตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจัดวางระบบโดยสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (Japanese Industrial Standards หรือ JIS) แบ่งตามลักษณะงาน ดังนี้ ตัวอักษรชุดแรก จะมีคำว่า JIS หมายถึง Japanese Industrial Standards ตัวอักษรสัญลักษณ์ตัวถัดมาจะมีได้หลายตัวแต่ละตัวหมายถึงการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น
ถัดจากตัวอักษรจะเป็นตัวเลขซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ตัว มีความหมายดังนี้ตัวเลขตัวแรก หมายถึง กลุ่มประเภทของเหล็ก เช่น
ตัวเลขตัวที่ 2 จะเป็นตัวแยกประเภทของวัสดุในกลุ่มนั้น เช่น ถ้าเป็นในกรณีเหล็ก จะมีดังนี้
ตัวเลขที่เหลือ 2 หลักสุดท้ายจะเป็นตัวแยกชนิดของส่วนผสมที่มีอยู่ในวัสดุนั้น เช่น ถ้าเป็นเหล็กตัวเลข 2 หลักสุดท้ายจะเป็นตัวแยกชนิดเหล็กตามส่วนผสมธาตุที่มีอยู่ในเหล็กชนิดนั้น ๆ เช่น
มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม มีหลากหลายมาตรฐาน เนื่องจากประเทศมหาอำนาจมีกลุ่มผู้ใช้ในเครือ หรือ กลุ่มประเทศที่มีการจัดการมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมแบบเดียวกันยอมรับและนิยมนำมาใช้งานอย่างแพรหลายมีหลัก 3 มาตรฐาน ดังนี้ 1. ระบบอเมริกัน AISI (American Iron and Steel Institute) 2. ระบบเยอรมัน DIN (Deutsch Institute Norms) 3. ระบบญี่ปุ่น JIS (Japanese Industrial Standards) ตาราง แสดงจำนวนมาตรฐาน และชื่อประเทศที่ใช้มาตรฐาน
การอัดขึ้นรูปอลูมิเนียม สำหรับการประกอบคือ A6063S-T5 การเคลือบสีเป็น Anodized และ Powder coat ตามมาตรฐาน JIS H 4100, JIS H 8602 AAMA2604 ของการประกอบขึ้นรูปอลูมิเนียมสำเร็จรูป เส้นอลูมิเนียมผ่านการประกอบออกแบบตามมาตรฐาน JIS A 4702 และ JIS A 4706 ตามมาตรฐานของการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และกระบวนการประกอบได้ใช้มาตรฐาน JIS A 4702
ขอขอบคุณ
บทความจาก สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย